เมื่อวันที่ วันที่ 26 สิงหาคม 64 ที่ผ่านมาทาง Volvo Trucks Thailand ได้ประกาศเปิดตัวรถบรรทุกนำเข้าจากประเทศสวีเดนสู่ประเทศไทย ในรุ่น All New Volvo FH, FH16, FM และ FMX 

ฉีกกฏเปลี่ยนภาพรถบรรทุกแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นรถบรรทุกเจเนอเรชันใหม่ที่มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเพื่อให้พนักงานขับรถได้รับความสะดวกสบายจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกับเพิ่มความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจในการขนส่งสินค้าไปยังเป้าหมายได้ตามแผนที่กำหนด

ภายใน All New Volvo Trucks

สำหรับ All New Volvo Trucks มาพร้อมห้องโดยสารใหม่ที่กว้างขวางขึ้นเห็นทัศนวิสัยที่ดีขึ้น ตัวรถเสริมฉนวนกันความร้อนและเสียงรบกวนจากภายนอก แถมมาพร้อมฟังก์ชันการแสดงผลบนหน้าปัดแบบดิจิตอล โดยมีหน้าจอขนาด 12 นิ้วที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เลือกข้อมูลที่ต้องการได้สะดวก

อีกทั้งจอแสดงผลด้านข้างขนาด 9 นิ้ว สำหรับระบบสาระบันเทิง ระบบนำทาง ข้อมูลการขนส่ง และกล้องตรวจสอบ การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ สั่งงานได้จากปุ่มบนพวงมาลัย หรือสั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัสและแผงควบคุมการแสดงผลก็ได้ ด้านข้างยังมีหน้าต่างบานใหญ่ และแผงกระจกใหม่ คอพวงมาลัยที่ปรับเอียงได้ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับตำแหน่งการขับขี่ให้เหมาะสมที่สุดได้

อัพเกรดพื้นที่ใช้สอยเพื่อความสบายมาพร้อมที่นอน (Sleeper Cab) ปรับปรุงให้เตียงยกสูงขึ้นและเพิ่มพื้นที่เก็บของใต้เตียงและช่องเก็บของด้านหลังชั้นบนพร้อมแผงไฟแอลอีดีในแผงกั้นระหว่างช่อง ตัวคันเกียร์ I-Shift แบบใหม่ที่เล็กลงและออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ และด้วยการที่ทำดีไซน์ใหม่หมดทั้งคัน วอลโว่ ทรัคส์ เองก็ได้รับการการันตีด้วยรางวัล Red Dot Award 2021 จากคุณภาพการออกแบบที่โดดเด่นยอมรับในระดับสากล

ระบบขับเคลื่อน All New Volvo Trucks 

ประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงและสร้างงานได้มากขึ้นรูปแบบของระบบขับเคลื่อนและแชสซีที่หลากหลายทำให้รถบรรทุกรุ่นใหม่นี้สามารถปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพในการทำงานและประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้นสำหรับงานประเภทต่างๆ กับขุมพลังที่หลากหลายเริ่มที่ 10 ล้อ หัวลาก All New Volvo FX ตั้งแต่ขนาด 10.8 ลิตร 6 สูบแถวเรียง รหัส D11A370S EC01 370

แรงม้าที่ 1,600-1,900 รอบ/นาที แรงบิด 1,780 นิวตันเมตรที่ 1,000-1,400 รอบ/นาที ในรุ่น FM11 6X2 TRACTOR 370HP หัวลากเพลาเดียวและขนาด 12.8 ลิตร 6 สูบแถวเรียง รหัส D13A400S EC01 400 แรงม้าที่ 1,400-1,800 รอบ/นาที แรงบิด 2,040 นิวตันเมตรที่ 1,050-1,400 รอบ/นาที ในรุ่น FH13 6X2 TRACTOR 400 HP หัวลากเพลาเดียว

ส่วน 10 หัวลากรุ่นใหญ่อย่าง All New Volvo FH ตั้งแต่ขนาด 12.8 ลิตร 6 สูบแถวเรียง รหัส D13A440S EC01 440 แรงม้าที่ 1,400-1,800 รอบ/นาที แรงบิด 2,244 นิวตันเมตรที่ 1,050-1,400 รอบ/นาที ในรุ่น FH13 6X2 TRACTOR 440HP หัวลากเพลาเดียว และ FH13 6X4 TRACTOR 440HP TANDEM LIFT AXLE หัวลากสองเพลาเพลาสุดท้ายยกได้ และขนาด 12.8 ลิตร 6 สูบแถวเรียง รหัส D13A520S 520

แรงม้าที่ 1,450-1,800 รอบ/นาที แรงบิด 2,550 นิวตันเมตรที่ 1,050-1,400 รอบ/นาที ในรุ่น FH13 6X4 TRACTOR 520HP HEAVY DUTY หัวลากสองเพลา นอกจากนี้ยังมีคุณลักษณะต่างๆ เช่น ระบบเสริมแรงบิดวอลโว่ (Volvo Torque Assist) และซอฟต์แวร์ใหม่ในเกียร์วอลโว่ I-Shift 12 สปีด ที่ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น

ระบบความปลอดภัย All New Volvo Trucks

• ระบบความปลอดภัยของตัวรถประกอบด้วย
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC) เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบดาวน์ฮิลล์ (Downhill Cruise Control) ที่สั่งงานเบรกล้อโดยอัตโนมัติเมื่อจำเป็นต้องใช้แรงเบรกเป็นพิเศษเพื่อรักษาความเร็วขณะขับลงทางลาดให้คงที่
• ระบบเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronically controlled Brake System: EBS) ซึ่งเป็นระบบเบื้องต้นที่ทำงานร่วมกับคุณลักษณะด้านความปลอดภัยอื่นๆ เช่น การเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกฉุกเฉิน (Collision Warning with Emergency Brake) และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Stability Control) ทั้งหมดนี้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถบรรทุกใหม่ ตั้งแต่ All New Volvo FM13 ขึ้นไป
• ระบบพวงมาลัยวอลโว่ไดนามิกเสตียริ่ง (Volvo Dynamic Steering) พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อขับขี่ออกนอกช่องทางและควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Lane Keeping Assist and Stability Assist) มีให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริม และทัศนวิสัยได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นโดยการเพิ่มกล้องมุมฝั่งผู้โดยสาร (passenger corner camera) ซึ่งช่วยเสริมมุมมองด้านข้างรถบรรทุกผ่านหน้าจอแสดงผลด้านข้าง

All New Volvo FH, FH16, FM และ FMX ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย วางใจได้กับการบริการลูกค้า พร้อมจำหน่ายจากเครือข่ายตัวแทนศูนย์บริการ ทั้ง 15 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งอนาคตมีแผนจะขยายตัวแทนศูนย์บริการเพิ่มเป็น 18 แห่งทั่วประเทศในต้นปี 2565 อีกด้วย

ซึ่งรถบรรทุกใหม่ทั้งสี่รุ่นนี้ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมของผู้ขับขี่ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพการทำงาน โดยตั้งเป้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีที่สุดของลูกค้าเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และให้พนักงานขับรถสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขอบคุณข้อมูลจาก : volvotrucks