ยกเลิกการแจ้งเตือน

คุณต้องการยกเลิกการแจ้งเตือนข่าวสารเมื่อมีการอัพเดตใช่หรือไม่?

Advertise with Us

ติดต่อเพื่อลงโฆษณากับเราที่นี่!

รถยนต์ ข่าวรถยนต์ รถใหม่ ราคารถยนต์ พริตตี้ รถคลาสสิค รถแต่ง
background

GTO Engineering คืนชีพ Ferrari 250 GTO !

23 มิ.ย. 2564 N/A views

GTO Engineering เผยดีไซน์ก่อนผลิตแบบปรับโฉม Ferrari 250 GTO เวอร์ชันใหม่พร้อมตั้งชื่อว่า “Squalo” หลังจากที่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีข่าวคราวเกี่ยวกับ โปรเจ็ค Moderna ของทาง GTO Engineering คือการคืนชีพรถสปอร์ตระดับตำนานอย่าง Ferrari 250 GTO ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น

Ferrari 250 GTO เวอร์ชันใหม่

ล่าสุดได้มีการเปิดเผยภาพดีไซน์ตัวรถออกมาให้ได้ชมกันแล้ว โดย GTO Engineering ตั้งชื่อรถสปอร์ตคันนี้ว่า Squalo ซึ่งแปลว่า “ฉลาม” ในภาษาอิตาลี เพราะดีไซน์ตัวรถดูคล้ายปลาฉลามนั้นเอง

ตัวรถภายนอก

GTO Engineering มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะชี้ให้เห็นว่า ทางบริษัทได้พัฒนาปุ่มและสวิตช์สำหรับห้องโดยสาร แทนการปรับเป็นหน้าจอสัมผัสเหมือนกับรถยนต์สมัยใหม่ในปัจจุบัน

ยังคงความร่วมสมัย

เพื่อยังคงความคลาสสิกแบบต้นฉบับเอาไว้ แต่ตัวรถจะรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รวมถึงคุณสมบัติหน้าจออินโฟเทนเมนท์ และลำโพงเสียงด้วย แม้ว่าจะไม่ปรากฎในภาพสเก็ตช์ก็ตาม

ขุมพลัง Ferrari 250 GTO

สำหรับขุมพลังยังคงยืนยันอย่างที่เคยแจ้งไปก่อนหน้านี้ คือจะติดตั้งเครื่องยนต์ V12 ไร้ระบบอัดอากาศ พร้อมกับตั้งเป้าว่าจะต้องมีน้ำหนักต่ำกว่า 1,000 กิโลกรัม เกียร์ธรรมดา ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยางดีไซน์พิเศษโดยเฉพาะ โดยจะทำการส่งมอบตัวอย่างแรกของ Squalo ให้กับเจ้าของในปี 2023

คงความคลาสสิค

นอกจากนั้นทาง Mark Lyon กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง GTO Engineering กล่าว “ในฐานะที่ Squalo เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นด้วยมือแบบสั่งทำพิเศษ เราต้องการให้แน่ใจว่าทุกรายละเอียดได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วและเราหวังว่าภาพวาดจะอธิบายความคิดบางอย่างของเราและเน้นไปที่งานฝีมือรวมถึงการเลือกใช้วัสดุ”

GTO Engineering

นอกจากนั้นยังได้เผยภาพเครื่องยนต์ที่แสดงให้เห็นว่ามีการถอดวัสดุรอบด้านของคาร์บอนออก ส่วนรายละเอียดในด้านสเปกยังไม่มีการเปิดเผยออกมาให้ทราบ หากทางทีมงานมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรีบมาอัพเดทให้ทราบกันอีกครั้งแน่นอน

ที่มา : Carscoops

เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด