ใบสั่งฉบับนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในโลกสังคมออนไลน์อย่าง Facebook เป็นจำนวนมาก เมื่อเพจ “แบบนี้ก็ได้เหรอ” ได้โพสต์ใบสั่งฉบับดังกล่าวที่ระบุข้อหาว่า “ขับ จยย. ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย” แต่ยานพาหนะที่ถูกจับกลับเป็นรถจักรยานยนต์ และล่าสุดศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีนี้ว่า

“ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. ขอชี้แจงกรณีการแชร์ภาพใบสั่งที่ระบุข้อหา “ขับรถ จยย. ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย” จากเพจ “แบบนี้ก็ได้เหรอ” จากการตรวจสอบกับทาง พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัณยกานนท์ ผกก.สภ.เมืองเลย ชี้แจงและยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง โดยได้เรียกตำรวจนายดังกล่าวมาสอบถามข้อเท็จจริงแล้วทราบว่าได้ปฏิบัติหน้าที่มาเป็นเวลานานและมีอาการเหนื่อยล้าจึงได้ออกใบสั่งที่ผิดพลาดออกไป จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก ในขณะเดียวกันได้พยายามติดต่อกับทางเจ้าของใบสั่งเพื่อขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อไป”

เรื่องความเหนื่อยล้าจากการทำงานย่อมเกิดได้กับคนทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไทยซึ่งต้องทนตากแดดตากฝนคอยรับใช้ และบริการประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน อาการสับสนจากความเหนื่อยล้าย่อมเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง และขอชมที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามติดต่อเจ้าของใบสั่งเพื่อขอโทษ

แต่ก็อีกนั่นแหละ ! ใบสั่งในลักษณะนี้คงต้องพบเห็นกันอีก เหมือนอย่างเช่น ใบสั่งการฝ่าฝืนกฏความเร็วของรถยนต์ฟอร์ด หรือใบสั่ง รูปรถ และข้อมูลไม่ตรงกัน

เครดิต : แบบนี้ก็ได้เหรอ, ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.

เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่  Thaicarlover.com ครับ