ยกเลิกการแจ้งเตือน

คุณต้องการยกเลิกการแจ้งเตือนข่าวสารเมื่อมีการอัพเดตใช่หรือไม่?

Advertise with Us

ติดต่อเพื่อลงโฆษณากับเราที่นี่!

รถยนต์ ข่าวรถยนต์ รถใหม่ ราคารถยนต์ พริตตี้ รถคลาสสิค รถแต่ง
background

แตกประเด็น “โดนหาว่าเป็น Uber” !!

11 มี.ค. 2560 N/A views

ข่าวร้อนบนโลกออนไลน์จากหัวข้อกระทู้ในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง “โดนหาว่าเป็น Uber แล้วแบบนี้ใครจะรับผิดชอบ” กำลังถูกพูดถีงและตั้งข้อสงสัยจากชาวโซเชียล

โดนหาว่าเป็น Uber

โดนหาว่าเป็น Uber

จากเหตุการณ์บนเวปบอร์ดแห่งหนึ่งมีผู้โพสหัวข้อว่า “โดนหาว่าเป็น Uber แล้วแบบนี้ใครจะรับผิดชอบ” เนื้อหาในโพสเป็นการบอกเล่าว่า “ผู้ขับและครอบครัวอาศัยอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรีไปเที่ยวเชียงใหม่ พร้อมกับนัดเจอเพื่อนชาวต่างประเทศ ซึ่งหลังจากพบปะกันแล้วก่อนแยกตัวกลับบ้านที่สุพรรณ ได้พาเพื่อนต่างประเทศไปส่งที่ท่ารถสาธารณะ หลังจากที่กลับถึงบ้านสุพรรณบุรีแล้วก็มีจนหมายจากขนส่งเชียงใหม่ ว่าใช้รถผิดประเภท ให้ไปชำระค่าปรับ และได้ทำการอายัดรถไว้แล้ว”

โดนหาว่าเป็น Uber

ประเด็นจากร้อนแรงจากโพสนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องการตรวจสอบและการยืนยันความบริสุทธิ์ของเจ้าของรถ อย่างแรกหลังจากได้จดหมายนี้เจ้าของโพสได้บอกต่ออีกว่า “โทรไปสอบถามขนส่งแล้วได้ความว่า มีคนร้องเรียนจึงออกหนังสือเปรียบเทียบปรับ หากบริสุทธิ์ ต้องไปให้ปากคำว่าบริสุธิ์ ที่ขนส่งเชียงใหม่เท่านั้นถ้าดูจากความเป็นจริงแล้วการที่จะไปให้ปากคำ ณ ขนส่งเชียงใหม่ ดูจะเป็นเรื่องยากและเสียเวลามากหากเดินทางไปจากจังหวัดสุพรรณบุรี

ชาวเน็ตบางรายได้เสนอว่าหากมีคนร้องเรียนจริงควรให้ผู้ร้องเรียนไปให้ปากคำบนศาลเพื่อชี้แจงด้วย และถ้าสามารถพิสูจน์ว่าไม่ได้เป็นคนขับ Uber จริง ก็ให้ฟ้องกลับแก่ผู้ร้องเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทำให้เสียเวลาและถูกกล่าวหาโดยมิชอบ แต่ !! ก็มีข้อสงสัยถูกตั้งขึ้นมาอีกว่าให้ดูหลักฐานของผู้ร้องเรียนที่ส่งให้กับขนส่งและวิธีการตรวจสอบของขนส่งนั้นกระทำอย่างไร เพราะหากเกิดการตรวจที่ตรงจุดหรือลึกลงไปกว่านี้ก็จะทำให้ทราบถึงคนขับรถคันนั้น เช่น การไปสถานที่ต่าง ๆ หรือภาพจากกล้องวงจรปิดหลาย ๆ จุด

โดนหาว่าเป็น Uber

จริงอยู่ที่คนขับรถ Uber นั้นไม่ได้มีการลงทะเบียนให้ตรวจสอบได้โดยง่าย แต่ก็ใช้ว่าจะตรวจสอบไม่ได้ ดูอย่างประเทศสิงคโปร์ที่ก็เจอปัญหาจาก Uber เช่นกัน โดยการทำแอพเรียกรถมาต่อสู้และปรับรูปแบบการบริการและเปิดให้ลงทะเบียนอย่างถูกต้อง ถึงแม้ในไทยจะมีแอพฯเรียกรถแท๊กซี่ที่ทำออกมาสู้กับแอพฯเรียกรถอื่น ๆ แต่ก็ยังไม่ถูกใจผู้ใช้บริการอยู่ดี อาจจะมาจากตัวแอพฯหรือการบริการของผู้ขับแท๊กซี่ อย่างไรก็ดีเหตุการณ์คล้าย ๆ แบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และตอนนี้ก็ยังมีการล่อซื้อสำหรับคนขับรถ Uber เนื่องจากทำความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522

เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่ Thaicarlover ครับ

Photo : cm108