ยกเลิกการแจ้งเตือน

คุณต้องการยกเลิกการแจ้งเตือนข่าวสารเมื่อมีการอัพเดตใช่หรือไม่?

Advertise with Us

ติดต่อเพื่อลงโฆษณากับเราที่นี่!

รถยนต์ ข่าวรถยนต์ รถใหม่ ราคารถยนต์ พริตตี้ รถคลาสสิค รถแต่ง
background

คลัทช์ใกล้จะหมด รู้ได้อย่างไร ?? มีทริค

23 มี.ค. 2558 N/A views

คุณเคยรู้ไหมว่าลักษณะของของคลัทช์ที่ใกล้หมดแล้วจะเป็นเช่นไร และมันจะมีอาการอะไรที่เราต้องน่ากังวลมั้ยนะ เรามาดูข้อสังเกตุแบบง่ายๆ ด้วยตัวคุณเองกันครับ

มีหลายลักษณะและอาการครับเราควรมั่นใจก่อนว่าครัชท์ที่เราซื้อมานั้นมีอายุการใช้งานมากี่ปีแล้ว จุดนี้ก็เป็นข้อสังเกตุได้ง่ายๆในระดับหนึ่งครับเรามาดูลักษณะอาการอื่นๆกันดีกว่า และกรณีหากเป็นเกียร์ธรรมดา ถ้าเข้าเกียร์ยากขึ้น เข้าเกียร์แล้วรถวิ่งไม่ออก มีแต่รอบเครื่องที่สูงผิดปรกติ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคลัทช์ใกล้หมดแล้วครับ แต่ถ้าเป็นสำหรับในเกียร์อัตโนมัติล่ะ เราจะรู็ได้อย่างไร

เหียยบคันเร่งแล้วรถไม่ไป ในบางจังหวะนั้นโดยเฉพาะช่วงที่เครื่องเย็นหรือรถจอดทิ้งไว้นานหลายชั่วโมง เมื่อเข้าเกียร์แล้วกดคันเร่งรถจะไม่ขยับเคลื่อนที่ต้องรอให้เครื่องร้อน หรือต้องขยับคันเกียร์ไปที่จังหวะเกียร์อื่น เป็นการกระตุ้นให้เกียร์ทำงาน

เกียร์ไม่เปลี่ยนหรือเปลี่ยนช้ากว่าเดิม พอรอบเครื่องยนต์และความเร็วถึงจุดที่โปรแกรมการทำงานของเกียร์กำหนดเอาไว้ ซึ่งตามปกติเกียร์ควรจะเปลี่ยนเป็นเกียร์สูงขึ้น เพื่อลดรอบเครื่องและเพิ่มความเร็ว แต่ถ้าหากคลัทช์เกียร์ลื่น บางทีเกียร์ก็จะไม่ยอมเปลี่ยนหรือบางทีจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อลากเกียร์กันยาว หรือเปลี่ยนเกียร์ที่รอบเครื่องสูงกว่าปกติ อาการที่เกียร์เปลี่ยนที่รอบสูงกว่าปกตินอกจากจะเกิดขึ้นเพราะผ้าคลัทช์เกียร์แล้ว อาจจะมาจากน้ำมันเกียร์ขาดระดับหรือเสื่อมคุณภาพจากการไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะเวลาที่เหมาะสม

เกียร์หาย ชหรือเกียร์ทำงานไม่ครบทุกเกียร์ อย่างพวกรถที่ใช้ระบบเดินหน้า 4 จังหวะ เกียร์จะค้างติดอยู่เกียร์ 3 ไม่ค่อยจะยอมเปลี่ยนเป็นเกียร์ 4 หรือหากจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ 4 ก็ต้องลากรอบเครื่องยาว ต่างกับเกียร์อัตโนมัติที่สุขภาพปกติซึ่งจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ 4 ทันทีเมื่อได้จังหวะ

เกียร์มีอาการกระตุก และจะกระตุกอย่างแรงชนิดสามารถสัมผัสกันได้อย่างชัดเจน (อาจจะมองหน้ากันเลิ่กลั่กว่ารถเป็นอะไร) ตอนเปลี่ยนจังหวะเกียร์ โดยจะมีอาการตั้งแต่เกียร์แรกไปเลยก็ได้ นอกจากนี้ยังอาจมีเสียงดังตอนเปลี่ยนเกียร์ได้อีกด้วย

แต่หากพบว่ากดคันเร่งแล้ว รอบเครื่องจะพุ่งปรี๊ดขึ้นไปเลยตามความแรงของเครื่องยนต์ในขณะที่ความเร็วของรถหรือเข็มวัดความเร็วจะขยับช้ามาก บางทีก็ไม่ขยับต่อไปอีกแม้จะกดคันเร่งให้รอบเครื่องสูงขึ้นอีก ซึ่งลักษณะนี้จะคล้ายกับรถเกียร์ธรรมดาที่มีอาการคลัทช์หมดหรือที่เรียกว่า คลัทช์ลื่น ไม่จับตัวกันนั่นเอง ตามที่น่าจะเป็นคือ ใช้น้ำมันเกียร์ตามสเป็คผู้ผลิตรถ ดูแลเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามกำหนดในคู่มือประจำรถ อย่าละเลย เพราะจะทำให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ และจะมีการสึกหรอในชิ้นส่วนต่างๆตามมาอย่างแน่นอนครับ

ติดตามข่าวสารของ คนรักรถ อื่นๆ ได้ที่นี่