แม้กาลเวลาจะล่วงเลยผ่านไปหลายปี รถยนต์จากยุคเก่าของค่ายกระทิงดุยังคงมีมนต์เสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลาย และหนึ่งในกระทิงดุที่มีความโดดเด่นมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Lamborghini Diablo GT ซูเปอร์คาร์สายพันธุ์อิตาเลียนเวอร์ชั่นสุดท้ายแห่งยุค 90

สำหรับประวัติความเป็นมาของ Lamborghini Diablo GT ถูกสร้างสรรค์ด้วยจำนวนเพียง 80 คัน ก่อนจะถูกแทนที่ด้วย Lamborghini Murcielago และเจ้ากระทิงดุรุ่นนี้มีความแตกต่างไปจากเพื่อนร่วมรุ่นคือมันถูกสร้างขึ้นมาใหม่ให้มีความใกล้เคียงกับรถแข่ง Lamborghini Diablo GT2 มากกว่าที่จะเป็น Lamborghini Diablo รุ่นมาตรฐาน

ถ้าหากใครต้องการ Lamborghini Diablo GT หนึ่งในยอดซูเปอร์คาร์จากยุค 90 สามารถไปงานประมูลที่ RM Sotheby’s จะจัดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ในเมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

Lamborghini ได้ปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนหลายชิ้นในขุมพลัง N/A (Naturally Aspirated) V12 ที่มีขนาด 6.0 ลิตร ด้วยการใช้ของในเกรดระดับมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งรวมถึงไอดี และเพลาลูกเบี้ยวใหม่ เพลาข้อเหวี่ยงที่เบา และท่อไอเสียใหม่ เมื่อร่วมกับการปรับโปรแกรม ECU ใหม่ ทำให้กำลังสูงสูดอยู่ที่ 583 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร

ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านั้นเมื่อ Lamborghini Diablo GT เป็นลัมโบร์กีนี ขุมพลัง V12 รุ่นสุดท้ายที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ RWD ก่อนที่บริษัทจะกำหนดให้รถยนต์รุ่นปกติใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ AWD ส่วนระบบเกียร์มีให้เลือกเพียงอย่างเดียวคือแบบธรรมดา 5 สปีด

การออกแบบตัวถังทำมาจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ระบบแอโรไดนามิคได้ปรับแต่งให้ดีขึ้น ด้านหน้าแบบใหม่และมีช่องดักอากาศที่ใหญ่ขึ้น ช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงที่ไม่เหมือนใคร ข้ามไปยังด้านหลังจะพบกับ Diffuser ขนาดใหญ่ ปีกหลังแบบเฉพาะรุ่น และสิ่งที่ Lamborghini Diablo GT และรุ่นมาตรฐานใช้ร่วมกันคือหลังคา และประตูสไตล์ Scissor Doors (ประตูกรรไกร) ที่ถูกใช้ใน Lamborghini Countach เป็นครั้งแรก

เมื่อเข้าไปภายในห้องโดยสารของ Lamborghini Diablo GT จะพบกับการตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ไม่ว่าจะเป็นแผงประตู ธรณีประตู และคอนโซลกลาง ในขณะที่พวงมาลัยมีขนาดที่เล็กลง และเจ้ากระทิงดุคันนี้คือคันลำดับที่ 73/80

ภาพรวมภายนอกของ Lamborghini Diablo GT 2001 คันนี้ถูกออกแบบด้วยสีดำ และภายในเน้นการใช้สีเหลืองตัดดำ ปัจจุบันมันถูกใช้งานไปทั้งสิ้น 6,600 กิโลเมตร ส่วนราคาคงต้องไปสู้กันในงาน

เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด