การตรวจเช็คระยะ รถยนต์ พูดง่ายๆก็คือ การบำรุงรักษารถยนต์อย่างนึงครับ ซึ่งหากกล่าวถึงการบำรุงรักษารถยนต์อย่างกว้าง ก็สามารถแบ่งได้ 2 แบบด้วยกันครับ แบบแรก คือ เปลี่ยนเมื่อเสีย ซึ่งควรจะมีการตรวจสอบดูแลอยู่สม่ำเสมอ และแบบที่ 2 คือ เปลี่ยนตามระยะแบบที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ครับ
ข้อดี ของการตรวจเช็คระยะ หรือเปลี่ยนตามระยะเวลา
- ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ เนื่องจากอะไหล่บางตัวเมื่อมีการสึกหรอ ก็จะส่งผลให้ตัวอื่นสึกหรอตามไปด้วยครับ
- ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อาจจะบานปลาย
- ขับขี่ได้อย่างสบายใจ ปลอดภัย และไร้กังวล เนื่องจากรถยนต์ของเราจะมีสมรรถนะที่สมบูรณ์อยู่ตลอดเวลาครับ
การตรวจเช็คระยะ รถยนต์ อย่างถูกต้องเหมาะสม
ระบบรองรับ และยางรถยนต์
- ยางรถยนต์ ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 5,000 กม.
- สลับยาง ถ่วงล้อ แรงตึงน๊อตล้อ ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
- โช๊คอัพ หน้า – หลัง ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 10,000 กม.
- ตั้งศูนย์ล้อ ควรตรวจเช็คในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 20,000 กม.
ระบบเบรค
จานเบรกและผ้าเบรคหน้า ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 5,000 กม.
จานเบรกและผ้าเบรคหลัง ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
การรั่วซึมของท่อและสายน้ำมันเบรก ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
น้ำมันเบรค ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบคลัช
คลัช ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
การรั่วซึมของท่อและสายน้ำมันคลัช ควรตรวจเช็คในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 10,000 กม.
น้ำมันคลัช ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบบังคับเลี้ยว
สายพานพวงมาลัยพาวเวอร์ ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 20,000 กม.
น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบช่วงล่าง และตัวถัง
อัดจารบีช่วงล่าง ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
ยางหุ้มเพลาขับ ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 10,000 กม.
ลูกปืนล้อหน้า – หลัง ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 10,000 กม.
ระบบคันชักคันส่ง ลูกหมาก และยางกันฝุ่น ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 20,000 กม.
ระบบส่งกำลัง
น้ำมันเกียร์ธรรมดา , เฟืองท้าย ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 20,000 กม.
น้ำมันเกียร์ออโต้ ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบเครื่องยนต์
น้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์และไส้กรอง ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 5,000 กม.
น้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์และไส้กรอง ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 10,000 กม.
ล้างเครื่อง ควรทำ ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 20,000 กม.
สายพานขับ และ สายพานเครื่องยนต์ ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 20,000 กม.
น้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบเชื้อเพลิง และระบบควบคุมไอเสีย
กรองเชื้อเพลิง ดีเซล ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 15,000 กม.
กรองเชื้อเพลิง เบนซิน ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 48 เดือน หรือ 80,000 กม.
กรองอากาศ ดีเซล ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 20,000 กม.
กรองอากาศ เบนซิน ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบจุดระเบิด
หัวเทียน ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 48 เดือน หรือ 40,000 กม.
หัวเทียน แบบอิริเดียม ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 48 เดือน หรือ 100,000 กม.
แบตเตอรี่ ควรตรวจระดับน้ำกลั่นและแรงดันไฟ ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 5,000 กม.
อื่นๆ
ที่ปัดน้ำฝน และ ที่ฉีดน้ำล้างกระจก ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
คำเตือน
กรณีเป็นรถยนต์ที่ใช้งานใน ภาวะพิเศษ อาทิเช่น ใช้งานกับถนนขรุขระ , ถนนโคลนเลน , ถนนมีฝุ่นมาก , ใช้เป็นรถลากจูง , เป็นรถที่เดินทางในรอบต่ำ แต่ใช้ระยะทางไกล , รถที่ขับด้วยความเร็วสูงเกินกว่า 2 ชั่วโมง เป็นประจำ และใช้งานในที่สูงเกินกว่า 700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล จะต้องทำการตรวจเช็คที่ละเอียด และมีความถี่มากกว่า รถยนต์ที่ใช้งานแบบปกติครับ
เพื่อนๆสามารถติดตามเรื่องราวดีๆเกี่ยวการดูแลรักษารถยนต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
- วิธีทำความสะอาดเบาะรถยนต์อย่างง่าย (เบาะผ้า)
- ควรทำอย่างไร เมื่อรถไฟไหม้ !!!!!!
- จริงหรือ ยกก้านปัดน้ำฝนตอนจอดรถ ยืดอายุยาง
- รู้หรือไม่ การจอดรถอย่างถูกวิธี ยืดอายุรถได้
สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดีๆเกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่นๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ